ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ไฟฟ้าเคมี
สามารถนำความรู้เรื่องไฟฟ้าเคมีทั้งเซลล์กัลวานิกและเซลล์อิเล็กโทรไลต์ไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้และวัสดุอุปกรณ์ต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลหะและสารละลายอิเล็กโทรไลต์ได้ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. แบตเตอรี่อิเล็กโทรไลต์ของแข็ง
แบบเตอรี่อิเล็กโทรไลต์ของแข็ง
(Solid electrolyte battery)
เป็นเซลล์สะสมไฟฟ้าที่ใช้โลหะลิเทียมเป็นแอโนดและเทเนียมไดซัลไฟด์ (TiS2) เป็นแคโทด โดยอิเล็กโทรไลต์เป็นสารพวกพอลิเมอร์ จึงเรียกว่า อิเล็กโทรไลต์แข็ง ซึ่งมีสมบัติยอมให้ไอออนผ่านได้ดี แต่ไม่ยอมให้อิเล็กตรอนผ่าน
1.1 โลหะลิเทียมให้อิเล็กตรอนแล้วเปลี่ยนเป็น Li+ ผ่านอิเล็กโทรไลต์ไปยังแคโทด ซึ่งมี TiS2 ทำหน้าที่รับอิเล็กตรอนกลายเป็น TiS2– จากนั้น Li+ กับ TiS2– จะรวมกันเป็น LiTiS2 อิเล็กโทรไลต์แข็งจะเป็นฉนวนต่ออิเล็กตรอน
จึงทำให้เซลล์ไฟฟ้านี้ใช้งานได้โดยไม่ลัดวงจร ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเป็นดังนี้
แอโนด : Li(s)
→ Li+(ในอิเล็กโทรไลต์แข็ง) + e–
แคโทด : TiS2(s) + e– → TiS2–(s)
ปฏิกิริยารวม : Li(s) + TiS2(s) → Li+ (ในอิเล็กโทรไลต์แข็ง) + TiS2–(s)
เซลล์ชนิดนี้มีศักย์ไฟฟ้าประมาณ 3 V และเป็นเซลล์ทุติยภูมิ
ปัจจุบันมีการนำไปใช้กับรถยนต์ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
แต่ราคายังแพงเมื่อเปรียบเทียบกับเซลล์สะสมไฟฟ้าแบบตะกั่ว
1.2 แบตเตอรี่อิเล็กโทรไลต์แข็งอีกชนิดหนึ่งใช้โลหะลิเทียมเป็นแอโนด
และใช้โลหะออกไซด์ เช่น MnO2 หรือ V6O13 เป็นแคโทด ส่วนอิเล็กโทรไลต์เป็นพอลิเมอร์ที่ยอมให้ Li+ ผ่านได้ แต่อิเล็กตรอนผ่านไม่ได้
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายในเซลล์เป็นดังนี้
แอโนด : Li(s) → Li+(ในอิเล็กโทรไลต์แข็ง) + e
แคโทด : MnO2(s) + Li+ + e– → LiMnO2(s)
ปฏิกิริยารวม : Li(s) + MnO2(s) → LiMnO2(s)
เซลล์ชนิดนี้มีศักย์ไฟฟ้าประมาณ
3 V และเป็นเซลล์ทุติยภูมิ
ออกแบบให้มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่
เซลล์เล็กเท่าเม็ดกระดุมใช้กับเครื่องคิดเลขขนาดเล็ก นาฬิกา กล้องถ่ายรูป
เซลล์ขนาดใหญ่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
2. แบตเตอรี่อากาศ
รถยนต์ไฟฟ้าได้มีการพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถเก็บสะสมปริมาณไฟฟ้าได้มากขึ้น
แบตเตอรีอากาศเป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งซึ่งใช้ออกซิเจนในอากาศเป็นตัวออกซิไดส์ ใช้โลหะ เช่น Znหรือ Al เป็นตัวรีดิวซ์ และอาจใช้สารละลาย NaOH เข้มข้นเป็นอิเล็กโทรไลต์
2.1 แบตเตอรี่อะลูมิเนียม–อากาศ
ใช้ Al เป็นแอโนด เมื่อต่อเซลล์โลหะ Al จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ Al3+ แต่ในสารละลายมีความเข้มข้นของ OH– มาก จึงเกิดไอออนเชิงซ้อนของ [Al(OH)4]– ส่วนที่แคโทดซึ่งแท่งคาร์บอนเป็นขั้วไฟฟ้า
แก๊สออกซิเจนและน้ำเกิดปฏิกิริยารีดักชันได้ OH– ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายในเซลล์เป็นดังนี้
แอโนด : 4
{Al(s) + 4 OH–(aq) → [Al(OH)4]–(aq) + 3e–
แคโทด : 3 {O2(g) + 2H2O(l) + 4e– → 4OH–(aq)
ปฏิกิริยารวม : 4Al(s) + O2(s) + 6H2O(l) + 4OH–(aq)
→ [Al(OH)4]–(aq)
จะเปลี่ยนไปเป็น Al(OH)3 เคลือบอะลูมิเนียม
ดังนั้นหลังจากใช้งานในรถยนต์ได้ระยะทางประมาณ 200
กิโลเมตร ต้องมีการกำจัดAl(OH)3เนื่องจาก Al(OH)3 เป็นฉนวนไฟฟ้า
2.2 แบตเตอรี่สังกะสี–อากาศ
ใช้สังกะสีเป็นแอโนด
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายในเซลล์เป็นดังนี้
แอโนด : Zn(s) → Zn2+(aq) + 2e–
แคโทด : O2(g) + 2e– → O2–(g)
ปฏิกิริยารวม : Zn(s) + O2(g) → ZnO(s)
เมื่อนำแบตเตอรีไปประจุไฟ
แก๊สออกซิเจนจะถูกปล่อยออกจากแบตเตอรี ส่วน ZnO จะถูกรีดิวซ์ไปเป็นสังกะสี
3.การทำอิเล็กโทรไดอะลิซิสน้ำทะเล
อิเล็กโทรไดอะลิซิส เป็นเซลล์อิเล็กโทรไลต์ที่ใช้แยกไอออนจากสารละลายโดยให้ไอออนเคลื่อนที่ผ่านเยื่อแลกเปลี่ยนไอออน
ซึ่งเป็นเยื่อบาง ๆ ไปยังขั้วไฟฟ้าที่มีขั้วตรงกันข้าม
สารละลายจึงมีความเข้มข้นลดลง ใช้หลักการนี้ในการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล
เมื่อผ่านน้ำทะเลเข้าทางช่อง A B และ C ไอออนบวกในน้ำทะเลที่ผ่านเข้าทางช่อง B เช่น Na+ หรือ Mg2+ จะเคลื่อนที่ผ่านเยื่อแลกเปลี่ยนไอออนบวกเข้าหาขั้วลบ ส่วนไอออนลบ เช่นCl– SO42– จะเคลื่อนที่ผ่านเยื่อแลกเปลี่ยนไอออนลบเข้าหาขั้วบวก
ดังนั้นน้ำที่ไหลออกทางช่อง B จึงมีไอออนน้อยลง
และถ้าไม่มี Na+ ไม่มี
น้ำที่ผ่านออกทางช่อง B จึงเป็นน้ำจืด
อุปกรณ์ทำอิเล็กโทรไดอะลิซิสน้ำทะเล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น